เทคนิคการเลือกคอเสื้อให้เหมาะสมกับรูปร่าง

                นอกจากลวดลายและสีสันแจ่ม ๆ ของเสื้อผ้า จะช่วยเพิ่มความเก๋ไก๋และเสริมสร้างบุคลิกให้มั่นใจขึ้นแล้ว “เสื้อ” นับเป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่มีช่วยสร้างเสริมความเด่น และพรางจุดบกพร่องของแต่ละคนได้อีกด้วย โดยเฉพาะคอเสื้อ หากเลือกใส่ให้เหมาะกับตัวเอง ก็สามารถช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้ วันนี้เราได้นำทริคดี ๆ ในการเลือกคอเสื้อให้แมทช์กับรูปร่างมาฝากกัน ใครอยากรู้ว่าคอเสื้อที่มีอยู่ในตู้จะใช่เสื้อที่เหมาะกับตัวเองบ้างหรือเปล่านั้น ไปชมกันเลย

รูปหัวใจ

                หน้าอกมากกว่าสะโพกของเราจะเลือกที่จะทำให้ท่อนบนดูเรียวขึ้นเพื่อปรับสมดุลของสิ่งต่างๆ เสื้อที่มีเส้นแนวตั้งและปลอกคอที่ยาวด้านบนจะเป็นที่ต้องการ สำหรับคอวี  เสื้อพันแขนผ้าราแลนและคอเสื้อแบบกระดุมคอ หลีกเลี่ยงเสื้อบาทูเกาะอกและเสื้อสายเดี่ยว

รูปร่างกล่อง

                รูปร่างของกล่องที่ได้สัดส่วนเท่า ๆ กัน การวัดหน้าอกเอวและสะโพกนั้นใกล้เคียงกันมาก จะต้องการเพิ่มรูปร่างให้มากขึ้นเพื่อสร้างเงาที่โค้งมากขึ้นในขณะที่เพิ่มการเยื้องสำหรับเอว เราสามารถเพิ่มรูปร่างได้มากขึ้นด้วยเสื้อเชิ้ตที่พอดีกับรอบเอวและขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกเช่นคอตักโค้งมน เสื้อคอปาดของร้านค้า ปลอกคอปีเตอร์แพนและเสื้อเบลาส์ ตักคอโดยเฉพาะดึงสายตาลงและทำให้คอยาวขึ้นและใช้ได้ดีกับผู้ที่มีคอสั้น

รูปร่างนาฬิกาทราย

                รูปร่างของนาฬิกาทราย ขนาดหน้าอกและสะโพกใกล้เคียงกัน แต่เอวเล็กกว่ามาก มีให้เลือกมากมาย ขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกทั้งหมดดูดีกับหุ่นนาฬิกาทรายดังนั้นให้เน้นที่เสื้อผ้าของเราพอดีแทน ไม่หลวมเกินไปและไม่แน่นเกินไป ขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกใช้งานได้ดีกับหุ่นนาฬิกาทรายที่มีหน้าอกขนาดกลางถึงเต็ม

รูปร่างคอ

                คอตักคอเหลี่ยมและคอวีเน้นคอที่สั้นลงโดยการยืดลำตัวส่วนบน สำหรับผู้ที่มีคอที่หนาขึ้นขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกที่กว้างและลึกจะทำให้เส้นของคอดูเพรียวขึ้น สำหรับผู้ที่มีคอยาวขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอก สามารถช่วยให้คอสั้นลง แต่ขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกก็ดูดีเช่นกัน

ทรงไหล่

                ไหล่ที่แคบได้รับประโยชน์จากขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกเช่นขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกที่ทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้น เสื้อคอเหลี่ยมสามารถขยายไหล่แคบและทำให้ช่วงกลางส่วนล่างสมดุลขึ้นได้

 

ไหล่ที่กว้างขึ้นจะได้ประโยชน์จากคอเสื้อที่กว้างขึ้นโดยดึงความสนใจไปที่ไหปลาร้า ขอบเสื้อผู้หญิงตอนหน้าอกยังใช้ได้ดีกับผู้ที่มีไหล่กว้าง

 

 

เทคนิคการแต่งตัวสำหรับคุณผู้หญิงหน้าอกใหญ่

                ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่จะบอกคุณว่าการแต่งตัวนั้นยากขึ้นเล็กน้อย เช่นเสื้อเชิ้ตสามารถอ้าปากค้างระหว่างกระดุมและบางครั้งก็เปิดออกในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมที่สุดและชุดที่พอดีกับทั้งท่อนบนและท่อนล่างก็เป็นเพียงความฝัน วันนี้เรามีไอเดียแต่งตัวสำหรับสาวหน้าอกใหญ่มาฝากกัน

     1.ชุดเดรส

                ตัวเลือก deep-V นี้แสดงให้เห็นถึงปริมาณการแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับทุกคนและยังจัดสไตล์ได้ง่ายสุด ๆ มันยากที่จะหาชุดที่เข้ากันได้ดีทั้งท่อนบนและท่อนล่างของร่างกาย แต่ชุดเดรสรัดรูปเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเราสามารถปรับวิธีให้พอดีได้ และสาวเอวคอดถือเป็นข้อดีด้วย

     2.ด้านบน Smocked

เมื่อคุณมีหน้าอกใหญ่เสื้อที่พอดีตัวเป็นสไตล์ที่ยากที่จะถอดออก แน่นอนว่าคุณสามารถซื้อเสื้อเชิ้ตให้พอดีตัวแล้วนำไปให้ช่างตัดเสื้อได้เลย หรื คุณสามารถเลือกตัวเลือกที่ยืดหยุ่นกว่าที่จะโอบรับทุกส่วนโค้งของคุณ จับท่อนบนของคุณเข้ากับกางเกงเอวสูงเพื่อเน้นเอวของคุณมากยิ่งขึ้นดังนั้นการมีเสื้อที่ยืดได้อยู่ในมือจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นการสวมเสื้อสม็อคเป็นวิธีที่ทันสมัยกว่าในการทำให้รู้สึกสบายตัว

     3.เสื้อเบลเซอร์ขนาดใหญ่

เสื้อเบลเซอร์ขนาดใหญ่พอดีกับทั้งหน้าอกและเอวของคุณ เปิดไว้ด้านหน้าหากคุณต้องการอวดเล็กน้อยหรือติดกระดุมเมื่อคุณต้องการการปกปิดเพิ่มเติม

     4.คอสี่เหลี่ยม

ถ้า V ลึกรู้สึกว่ามากเกินไปและเสื้อคอเต่าดูเหมือนจะแข็งเล็กน้อยให้ใช้สี่เหลี่ยมจัตุรัสตักหรือกระโถน เสื้อชั้นในแบบเรียบๆเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสวมคู่กับกางเกงยีนส์เพื่อลุคลำลองหรือใส่ทับในชิ้นอื่น ๆ

 

เทคนิคการแต่งตัวด้วยกฎ 16 ตามสไตล์ยุโรป

                เราสามารถรวบรวมเครื่องแต่งกายโดยใช้ส่วนประกอบพื้นฐาน 4 อย่าง เริ่มจากชิ้นเบสิกเช่นกางเกงยีนส์สีเข้มกระโปรงทรงดินสอหรือเสื้อชั้นในแบบเบสิก จากนั้นเพิ่มชิ้นส่วนที่น่าสนใจสิ่งที่เพิ่มสีลวดลายพื้นผิวหรือความเงางามให้กับเครื่องแต่งกาย เลือกชิ้นส่วนที่สมบูรณ์แบบเช่นแจ็คเก็ตเสื้อกันหนาวผ้าพันคอที่คาดผมหรือเข็มขัด สุดท้ายรวมอุปกรณ์เสริมเพื่อปิดท้ายรูปลักษณ์ โดยทั่วไปกระเป๋าถือเครื่องประดับและรองเท้าถือเป็นขั้นพื้นฐาน แต่เราไม่สามารถใส่เครื่องประดับได้โดยไม่ต้องคิดล่วงหน้า มากเกินไปและเราจะดูแต่งตัวเกินไปและน้อยเกินไปจะดูจืดชืด

กฎ 16 จุด

                เมื่อเลือกเครื่องประดับเพื่อให้ชุดของเราสมบูรณ์กฎ 16 จุดเป็นวิธีที่นิยม ใช้กฎ 16 จุดแต่ละชิ้นจะถูกกำหนดค่า จากนั้นจึงสรุปมูลค่าของอุปกรณ์เสริมที่มีศักยภาพของเราจนรวมกันได้ถึง 16 ชิ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครื่องแต่งกายให้มีความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ หากผลรวมชุดของเราน้อยกว่า 16 เราต้องเพิ่มจำนวนชิ้น หากผลรวมมากกว่า 16 ให้นำชิ้นส่วนออก

สำหรับเสื้อผ้าแต่ละชิ้นที่เราควรมี

• กระโปรง: 1
• แจ็คเก็ต: 1
• สีมากกว่า 2 สี: 1
• เข็มขัด: 1
• รองเท้า: 2
• แหวน: 2
• นาฬิกา, สร้อยข้อมือ, กำไลข้อมือ: 1
• สร้อยคอ: 1
• ต่างหู: 2
• แว่นตา: 1
• กระเป๋าถือ (ถ้าถือตลอดเวลา): 1
• ผ้าคลุมไหล่: 1
• หมวก: 1

                แน่นอนว่ามีเสื้อผ้าแฟชั่นที่เราสามารถทำได้ซึ่งจะทำลายเครื่องแต่งกายแม้ว่าจะปฏิบัติตามกฎ 16 ข้อก็ตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพอดี นี่เป็นกฎที่สำคัญที่สุดในการใส่ชุด หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่หลวมโดยเฉพาะ เสื้อผ้าควรพอดีกับร่างกายของเราเหมือนที่สั่งทำมาเพื่อเรา หากไม่เป็นเช่นนั้นให้ช่างตัดเสื้อทำการปรับแต่งขั้นสุดท้าย อย่าลืมว่าเสื้อผ้าที่คับเกินไปก็ดูแย่เช่นกันอย่าละเลยความสำคัญของรองเท้า รองเท้ามีความสำคัญกับชุดของเรามากยิ่งขึ้นหากลุคเรียบง่ายหรือลำลอง

เคล็ดลับสไตล์เสื้อสูทสำหรับคุณผู้หญิงให้ไม่น่าเบื่อ

                ปัจจุบันเทรนการใส่เสื้อสูทไม่ใช่การสวมใส่ที่ทางการอีกต่อไป เราสามารถใส่เสื้อสูทได้กับทุกสถานการณ์โดยเฉพาะคุณผู้หญิงในปัจจุบันสามารถแมทช์เสื้อสูทให้เข้ากับลุคการแต่งตัวที่หลากหลายวันนี้เราจะมาดูกันว่าเคล็ดลับการแต่งเสื้อสูทให้ไม่น่าเบื่อมีอะไรบ้าง

1) สูทสีเดียว

                เคล็ดลับง่ายๆในการทำให้ชุดของคุณดูเป็นที่ปโดดเด่นคือการไล่ระดับสีเดียวตั้งแต่หัวจรดเท้า เช่นการสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนติดกระดุมที่ซ่อนตัวอยู่ในยีนส์ฟอกอ่อนกระโปรงสั้นและปิดทับด้วยเสื้อเบลเซอร์ตัวยาวสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเบลเซอร์เป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของตัวต่อที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของเสื้อคลุมและทำให้ลุคสวยขึ้นทันที อย่าพลาดรายละเอียดของกระเป๋าสีน้ำเงินที่เข้ากันด้วย

2) พิมพ์ตาหมากรุก

                ลายสก็อตหรือลายตารางหมากรุกเป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับฤดูหนาว และเมื่อผสมกับเสื้อสูทก็ทำให้ได้ลุคเจ้านายสาว ลองนึกย้อนไปถึงเครื่องแต่งกายของราชวงศ์หรือชุดนักเรียนกินนอนแฟนซี วิธีการมองเห็นลายสก๊อตในปริมาณน้อยถึงมากในเกือบทุกชุด อย่างไรก็ตามคุณสามารถสนุกกับสิ่งที่คุณเลือกได้โดยการเลือกใช้กางเกงขาสั้นสีนีออน จับคู่กับเครื่องประดับสีทองหรูหราแล้วคุณจะมีลุคที่ดูน่าดึงดูด แม้ว่าอาจจะไม่เหมาะกับสำนักงานมากนัก แต่คุณก็ต้องหันหน้าไปทางของคุณในยามค่ำคืนอย่างเก๋ไก๋แน่นอน

3) สีสันสดใส

ไม่มีอะไรที่เหมือนกับสีสันสดใสที่จะทำให้อารมณ์ของคุณสดใสขึ้นในวันที่มืดมน การผสมผสานระหว่างเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลายสีน้ำเงินสดใสและเสื้อเบลเซอร์สีเหลืองนีออนเข้าด้วยกันถือเป็นการเติมเต็มความสุขให้กับดวงตาของเรา เฉดสีเข้ากันได้ดีกับสีทึบที่ทำให้ลุคดูโดดเด่น ไม่ใช่สำหรับคนใจเสาะ สีสันที่มีชีวิตชีวาจะทำให้การแต่งตัวของคุณสนุกสนานอย่างแน่นอน

4) สูทคลาสสิก

                เสื้อคลุมสไตล์คลาสสิกสมัยเก่าเป็นวิธีที่มีลายปัก เฉดสีเทาต่างๆเป็นสไตล์การสวมใส่ที่พบบ่อยเมื่อพูดถึงเสื้อคลุม แม้ว่าการออกแบบจะเป็นแบบมาตรฐาน แต่ก็สามารถเป็นส่วนเสริมที่มีสไตล์ได้ ถึงแม้จะดูเรียบง่าย แต่รูปลักษณ์โดยรวมก็มีความหลากหลายและทันสมัยด้วยการจับคู่และรายละเอียด นอกจากนี้หากคุณไปประชุมทางธุรกิจสายการจับเสื้อเบลเซอร์ลายทางแล้วสวมทับเครื่องแต่งกายของคุณจะช่วยเพิ่มความเป็นทางการได้ทันที

6) เน้นโทนสีกลางๆ

                แม้ว่าสีที่สดใสและโดดเด่นจะอยู่ในช่วงนี้ แต่ก็มีที่สำหรับโทนสีกลางเช่นกันด้วยความรู้สึกที่ดูสงบของเฉดสีเหล่านี้ สำหรับวันที่ความสง่างามเป็นสิ่งสำคัญของคุณให้ไปที่ตระการตาในโทนสีอ่อน

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเสื้อผ้า

                การมีเคล็ดลับในการซื้อเสื้อผ้าจะทำให้การเลือกซื้อเสื้อผ้าของเรา ไม่เป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ได้เสื้อผ้าตรงตามความต้องการจริง ๆ และใช้ได้คุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการเลือกซื้อเสื้อผ้ามาฝากกัน

                1.กำหนดงบประมาณเสื้อผ้า เมื่อเรามีหมายเลขที่ต้องใช้งานเราสามารถวางแผนทริปช็อปปิ้งได้ง่ายขึ้นและหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเกินขนาด วิธีหนึ่งในการสร้างงบประมาณคือการแสดงรายการเสื้อผ้าทั้งหมดที่เราคิดว่าจะต้องซื้อในหนึ่งปีจากนั้นประมาณจำนวนเงินที่เราต้องการใช้จ่ายในแต่ละรายการ เมื่อเรามียอดรวมแล้วให้ยึดมั่นกับมันและอย่าใช้จ่ายเพิ่ม

                2.เช็ครายการที่ต้องการซื้อ ดูรายการเสื้อผ้าที่เราต้องการหรือจำเป็น เมื่อเราไปซื้อของให้ดูรายการเพื่อเตือนตัวเองว่าเรากำลังมองหาอะไรอยู่ การซื้อของจากรายการมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าการมุ่งเน้นไปที่สินค้าเฉพาะรายการหนึ่งเราอาจไม่พบทุกสิ่งที่ต้องการในการลองครั้งแรก แต่ในการเดินทางช้อปปิ้งหลายครั้งโดยทั่วไปเราสามารถตรวจสอบรายการส่วนใหญ่ในรายการของเราได้ เมื่อซื้อของออนไลน์ให้บุ๊กมาร์กรายการโปรดของเราและกลับไปที่เมื่อแบรนด์มีการลดราคา

                3.รู้ไซต์ของเรา จดบันทึกไว้ในโทรศัพท์ของเราด้วยการวัดสะโพกเอวและหน้าอก วิธีนี้จะช่วยในการช็อปปิ้งออนไลน์ช่วยให้เราเปรียบเทียบขนาดของเรากับแผนภูมิขนาดของร้านค้าได้ เมื่อซื้อเสื้อผ้าด้วยตนเองเราสามารถนำเทปวัดมาตรวจสอบว่าชิ้นส่วนนั้นพอดีหรือไม่ก่อนที่จะลองใช้ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อซื้อสินค้ามือสองเนื่องจากไซส์วินเทจอาจแตกต่างจากไซส์สมัยใหม่มาก

                4.ทำรายการของที่เรามีอยู่แล้ว เมื่อพิจารณาสินค้าใหม่ให้จดรายการจากตู้เสื้อผ้าของเราที่เราจะสวมใส่ได้ หากเราไม่ได้สร้างตู้เสื้อผ้าใหม่เอี่ยมตั้งแต่ต้นเราอาจต้องการให้ชิ้นส่วนใหม่นี้เล่นได้ดีกับสินค้าหลายชิ้นที่เรามีอยู่แล้ว หากเสื้อคาร์ดิแกนที่เราต้องการใช้ไม่ได้กับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่ที่บ้านให้พิจารณาว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เรากำลังพยายามเปลี่ยนสไตล์ของเราไปในทิศทางที่ต่างออกไปหรือเปล่า หากชิ้นส่วนไม่เข้ากับสิ่งอื่นที่เราเป็นเจ้าของอาจไม่เหมาะกับเรา แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานที่ใช้งานได้เองทั้งหมดหรือเสื้อผ้าสำหรับโอกาสพิเศษ เมื่อเรากลับถึงบ้านให้ลองสวมเสื้อผ้าอื่น ๆ หากไม่ได้ผลให้ส่งคืน

เคล็ดลับในการเลือกความยาวกระโปรงให้เหมาะสมกับรูปร่าง

                กฎที่สำคัญที่สุดในการเลือกเสื้อผ้าคือการยอมรับประเภทร่างกายของเราตามที่เป็นอยู่และแต่งตัวให้มีรูปร่างเพื่อความสมดุลที่เหมาะสม คำแนะนำนี้จะช่วยให้เราโอบรับประเภทของร่างกายและเฉลิมฉลองเราสมบัติที่เราชื่นชอบโดยนำเสนอเคล็ดลับในการเลือกความยาวกระโปรงให้เหมาะสมกับรูปร่าง

เคล็ดลับในการเลือกความยาวกระโปรงที่เหมาะสม

กระโปรงสั้น

                เราสามารถแยกความยาวชายเสื้อออกเป็นสี่ประเภท ตามความยาวกระโปรงสั้นหรือกระโปรงสั้นอยู่เหนือเข่าอย่างน้อยสองสามนิ้ว กระโปรงมินิจะดูดีที่สุดหากไม่ได้สิ้นสุดที่ส่วนที่หนาที่สุดของต้นขาให้เลือกความยาวด้านบนหรือด้านล่างเล็กน้อย นอกจากนี้ควรคำนึงถึงโอกาสด้วย – กระโปรงสั้นมีเวลาและสถานที่ของตัวเอง เหมาะสำหรับสถานบันเทิงยามค่ำคืนและปาร์ตี้ยามเที่ยงคืน แต่ไม่มากนักสำหรับโอกาสทางการหรืองานอนุรักษ์นิยม

กระโปรงคลุมเข่า

                กระโปรงยาวระดับชา (Midi) กระโปรงยาวเลยเข่าเป็นประเภทที่ดูดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ ตามความหมายของชื่อกระโปรงที่เข่าจะกระทบเหนือหรือใต้เข่า เป็นที่ยอมรับสำหรับงานเกือบทุกประเภทโดยมีข้อยกเว้นที่อาจเกิดขึ้นกับการเที่ยวกลางคืนที่กระโปรงคลุมเข่าอาจถือได้ว่าเป็นการอนุรักษ์นิยมเกินไป (ร้านที่หัวเข่าและส้นสูงเหนือเข่า)

กระโปรง Midi หรือ Tea Length

                กระโปรง Midi หรือกระโปรง Tea Length ตีที่ส่วนที่กว้างที่สุดของน่อง สายตาจะทำให้ความยาวของขาสั้นลง สิ่งนี้สามารถชดเชยได้ด้วยการจับคู่กระโปรง / เดรสสั้นกับรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าสีนู้ดเพื่อช่วยให้ขาดูยาวขึ้น กระโปรงเหล่านี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับงานที่ปกติต้องใช้ชุดคลุมกวาดพื้น

Maxi skirt หรือ Maxi dress

                กระโปรงแมกซี่ยาวถึงเหนือกระดูกข้อเท้าหรือจรดพื้น เนื่องจากกระโปรงแมกซี่คลุมทั้งขาเราจึงสามารถปรับลุคให้สมดุลได้ด้วยการโชว์ผิวส่วนบน พวกเขาทำงานได้ดีเป็นพิเศษสำหรับผู้หญิงที่มีรูปร่างสูง ผู้หญิงที่มีโครงร่างเล็กควรหลีกเลี่ยงกระโปรง midi และ maxi โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามีขาสั้น กระโปรงที่ยาวถึงข้อเท้าสามารถล้นได้ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สามารถเอาชนะได้ด้วยกระโปรงผ่าข้างที่ช่วยให้เราโชว์ผิวได้

 

สาว ๆ เคยไหม? คิดไม่ออกว่าจะแต่งตัวไปทำงานอย่างไรดี หรือบางทีก็อยากจะปรับเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวใหม่ ที่แสนจะดูคล้ายมนุษย์ป้า ให้ออกมาสดใส น่ารัก ที่สำคัญต้องถูกกาลเทศะ วันนี้เรามีไอเดียการแต่งตัวสำหรับสาวๆ ออฟฟิศที่ชอบสไตล์การแต่งตัวแบบสาวหวานหรืออยากแมทช์ชุดทำงานในตู้เสื้อผ้าให้ดูหวานดูน่ารักขึ้น แต่ยังไม่มีไอเดียเลือกเสื้อผ้าที่สามารถใส่ไปทำงานได้ วันนี้เราได้รวบรวบไอเดีย “แต่งตัวไปทำงาน” น่ารักสดใส สไตล์สาวหวาน ที่สามารถใส่ไปทำงานก็ได้ หรือจะใส่ไปเที่ยวชิลล์ก็ดูดีมาฝากทุกคนค่ะ จะมีไอเดียอะไรบ้าง มาเริ่มดูกันเลย!!

เสื้อเบลเซอร์สุดเท่ แต่งด้วยเข็มขัดเก๋ๆ

ไอเทมสำหรับการแต่งตัวไปทำงานที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้ อย่างแรกก็คือ “เบลเซอร์” หรือจะเป็นชุดสูทเท่ ๆ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมความอบอุ่นสำหรับการทำงานในออฟฟิศแล้ว ยังช่วยเพิ่มความดูดี ดูแพงอีกด้วย มาพร้อมกับเข็มขัดเก๋ๆ สไตล์น่ารักหวาน ก็ดูจะเข้ากั๊นเข้ากัน ขอบอกเลยว่าลุคนี้สาวๆ ออฟฟิศไม่ควรพลาดเลยค่ะ

เสื้อครอปเบลเซอร์คูลๆ กับกางเกงเอวสูง แต่งแล้วเรียบหรู ดูดี

ไอเทมชิ้นต่อมาสำหรับการแต่งตัวไปทำงาน ก็คือ “กางเกงเอวสูง” จะขาบานหรือขากระบอกก็ได้ แมตช์กับเสื้ออะไรก็ดูดี ส่งเสริมให้หุ่นดูผอมเพรียว ตามมาด้วย “เสื้อเชิ้ตครอป” ที่กำลังมาแรง ให้ลุคเรียบหรู แบบน่ารักๆ แปลกตา หากสาวผมสั้น ได้หยิบจับมาใส่ล่ะก็ ยิ่งจะทำให้ได้ลุคที่ดูมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าลุคนี้มันดีมากกกกก

เสื้อเชิ้ตโทนสีเบจ แมทช์กับกางเกงเอวสูงสีเบจ

ไอเดียเสื้อผ้าโทนสีเบจถือเป็นแฟชั่นยอดฮิตที่ถูกใจสาวออฟฟิศเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสีเบจเป็นสีที่ทำให้ชุดทำงานสุภาพ ดูดีเรียบหรู ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าเข้าใกล้ ส่วนไอเทมที่ดูจะเข้ากันกับไอเดียแต่งตัวไปทำงาน ก็คงจะหนีไม่พ้นเสื้อเชิ้ตกับแมทช์กับกางเกงเอวสูง เสริมลุคความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นด้วยรองเท้าคัชชูหนัง สไตล์สาวสวยเท่ เก๋ไก๋ ปังมากจ้าแม่!!!

เสื้อสีสดใส สวมสูททับ จับคู่กับกางเกงยีนส์พับขา

ถ้าให้พูดถึงแฟชั่นสไตล์สาวหวาน เสื้อผ้าที่ไม่ห้ามพลาดเลยก็คงจะเป็นเสื้อผ้าโทนสีสดใสในแบบ “Earth Tone” ถ้าให้จับคู่แมทช์ให้ได้ลุคแต่งตัวไปทำงาน เราแนะนำให้เลือกใส่เสื้อสีสดใส สวมสูททับ จับคู่กับการเกงยีนส์พับขาก็ให้ลุคที่เปรี้ยวไม่เบา แถมยังเป็นไอเดียชิคๆ คูลๆ ที่ไม่มีเบื่อ!!! หรือจะเลือกแมทช์กับกระโปรงใส่ทำงาน ก็ดูดี มีสไตล์ ดูเป็นสาวมั่น แต่ยังคงความน่ารักสดใส บอกเลยว่าลุคนี้ ก็สวยหวานไม่แพ้ใครเลยค่ะ

สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาไอเดียการแต่งตัวสี “Earth Tone” มากฟังทางนี้กันเลยค่ะ เรามีไอเดียแฟชั่นการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเอิร์ธโทนมาฝาก ขอบอกเลยว่าเป็นไอเดียแฟชั่นมิกซ์แอนด์แมทช์ที่แต่งตามได้ง่าย ไม่ต้องแต่งเยอะ ก็สวยปังได้นะคะ งานนี้สาวๆสายแฟชั่นห้ามพลาด

เอิร์ธโทนนั้นเป็นสีที่ออกไปทางโทนซอฟท์ ๆ ดูสบายตา โทนสีกลางๆ ไม่สดใสเกินไป และไม่ดาร์คจนเกินงาม และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เสื้อผ้าสไตล์นี้สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ง่ายสุด ๆ เลยค่ะ แถมยังแต่งตามได้ง่ายดูสวยสไตล์เกาหลี มีความมินิมอล ให้ลุคคุณหนูใสๆ เรียบง่าย และยังออกมาหรูหราอีกด้วย เป็นแฟชั่นที่น้อยแต่มาก แต่ดูดีและเก๋ไก๋มากเวอร์!!

สี Earth Tone กับวงการแฟชั่น

สี Earth Tone ปรากฏครั้งแรกในงานแฟชั่นปี 1960s โดยกลุ่มสีเหล่านี้ได้รับความนิยมแบบไม่จำกัดเพศ หรือจะเรียกได้ว่าสีเอิร์ธโทนเป็นสีแบบ Unisex และสื่อเป็นไปได้ทั้งด้านที่สว่างสดใสและคลุมเครือ ข้อสังเกตที่ชัดเจนก็คือความเป็นสีที่มีความอิ่มตัวต่ำหรือสีฟอกซีด (Muted Colors) ทำให้การนำเสนอของสีจึงไม่ได้มุ่งเน้นด้านความโดดเด่นจัดจ้าน แต่ก็สร้างความสง่างามเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ สบายตาต่อผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมากเลยค่ะ ทำให้เสื้อผ้าสีนี้ได้รับความนิยมกับผู้คนทุกเพศทุกวัย อย่ารอช้าตามเรามาดูส่องไอเดียแฟชั่นเสื้อผ้าสี Earth tone Style กันเลยค่ะ

Beige Tone : สไตล์เรียบง่าย ไม่ดรอปกับสีเบจ

อีกหนึ่งสีที่แต่งแมทช์ได้ง่ายอย่างเอิร์ธโทนสีเบจ เป็นสีเบสิคที่ทำให้การแต่งตัวสี Earth Tone ออกมาสมบูรณ์แบบได้ง่ายมากๆเลยค่ะทุกคน ด้วยความที่สี Beige Tone จะออกโทนครีม ๆ เกือบขาว แต่ก็มีความน้ำตาลอยู่บ้างเล็กน้อย แล้วยังให้ลุคมินิมอล สดใส สะอาดตา และละมุนมากเลยจ้า!!

Brown Tone : ให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าค้นหาไปกับโทนสีน้ำตาล

สี Brown Tone เป็นอีกสีหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มสี Earth Tone ที่ให้อารมณ์อบอุ่น เป็นลุคสาวมุ้งมิ้ง น่ากอด ด้วยความที่สีเอิร์ธโทนน้ำตาล จะให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ดุดันกว่าสีเบจช่วยให้สาว ๆ ได้ลุคเท่ๆ น่าอยู่ใกล้ ผสมกับความเป็นมินิมอลได้อย่างลงตัว ช่วยให้เราดูเป็นสาวอ่อนโยน น่ากอด โดยเฉพาะฤดูหนาว

Green Tone : แค่ใส่เสื้อผ้าสีเขียว เหมือนอยู่ใกล้ธรรมชาติ

ถ้าพูดถึงการแต่งตัวสี Earth Tone หากไม่พูดถึงสี Green Tone คงไม่ได้ เป็นสีที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการอัพลุค Natural ใส ๆ คลีน ๆ เสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยเอิร์ธโทนสีเขียวที่เลือกใส่ เราขอแนะนำสีเขียวเฉดดาร์คนิดหนึ่ง เช่นสีเขียวแก่ หรือสีเขียวขี้ม้า จะเป็นเขียวเข้มก็รอดไม่ฉูดฉาดจนเกินไป หรือจะเป็นสีที่ซอฟท์ลงมาอย่างสีเขียวอ่อน ที่ช่วยให้ลุคของเราดูสดใสขึ้น แต่ก็ไม่สดใสเกินไป

Yellow Tone : น่ารักสดใส ในแบบเอิร์ธโทนสีเหลือง

เอาใจสาวๆที่อยากได้ลุคน่ารักสดใส แต่ก็ไม่อย่าเทสี Earth Tone เรามีสี Yellow Tone ที่อยากแนะนำทุกคน บอกเลยว่าเป็นสีที่สดใสในสไตล์ซอฟท์ ๆ น่ารัก ตะมุตะมิ ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก โดยเอิร์ธโทนสีเหลืองที่ควรเลือกใส่จะเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด หรือเหลืองเข้ม ค่อนไปทางน้ำตาลนิด ๆ จะทำให้เราได้ลุคที่สดใสดูมีระดับ แถมยังช่วยขลับผิวให้ดูขาว นวลยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้เราต่างก็เห็นว่าวัยรุ่นหนุ่มสาวหันมานิยมแต่งตัวในแบบ Hot Season กันมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีช่วงเวลาฤดูร้อนที่ยาวนานมาก และฤดูหนาวที่สั้นมาก ด้วยอาการร้อนที่ยาวนาน อาจทำให้สาวๆ หลายคนเบื่อเสื้อยืด เสื้อเชิ้ต ที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้าจนไม่รู้จะ Mix and Match ยังไงให้สดชื่นแปลกใหม่ วันนี้เราจึงมีไอเทมใหม่ ที่อยากให้ทุกคนได้ลองรีเฟรชการแต่งตัวของตัวเอง อย่าง “เสื้อเปิดไหล่” ที่เป็นไอเทมยอดฮิตอีกหนึ่งไอเทมที่เหล่าสาวๆ สไตล์สายฝ. หยิบจับมาใส่ต้อนรับซัมเมอร์ 

Mix and Match แฟชั่นเสื้อเปิดไหล่ สไตล์สายฝ.

หลาย ๆ คนอาจนึกไม่ถึงว่า เสื้อเปิดไหล่ เนี่ยจะนำมามิกซ์กับอะไรได้บ้าง มันช่างดูน่ารักสดใสฟรุ้งฟริ้งหวานเจี๊ยบซะเหลือเกิน แต่อย่าดูถูกเจ้าไอเทมนี้โดยเด็ดขาด!! เพราะไอเดีย แฟชั่นสายฝ. ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้เป็นสไตล์สาวชิคๆ ให้ลุคที่ดูหว๊านหวาน แล้วยังให้ฟีลลิ่งแอบเซ็กซี่เบา ๆ ไม่ต้องโชว์มากมายก็สวยแซ่บได้ค่ะ แถมยังแต่งได้หลากหลายลุคมาก และแมทช์กับเสื้อผ้าอื่น ๆ ในตู้ให้ออกมาดูดีได้เลยค่ะ อย่ารอช้าตามเรามาดูไอเดียการใส่เสื้อเปิดไหล่ สไตล์สายฝ. กันเลยค่ะ 

1. แมทช์เสื้อเปิดไหล่กับกางเกงยีนส์ขายาว

ไอเทมแรกที่คุณไม่ควรพลาดอย่างเสื้อเปิดไหล่แขนตุ๊กตาคู่กับกางเกงยีนส์ขายาว เสริมด้วยการรอบผมโชว์ลำคอ สไตล์สายฝ.สวยเซ็กซี่แบบน่ารักๆ ไม่ดูแซ่บ แต่มีความชิคๆ สะกดสายตาใครหลายๆ ในแบบฉบับเสื้อเปิดไหล่ สไตล์สาว Gigi

2. แมทช์เสื้อเปิดไหล่แขนยาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นชายลุ่ย

ไอเทมที่สาวๆ หลายคนชื่นชอบอย่างเสื้อเปิดไหล่แขนยาวใส่ชายเสื้อเข้ากับกางเกงยีนส์ขาสั้นชายลุ่ย ช่วยส่งเสริมลุคแสนหวาน แต่ยังซ่อนความสวยเซ็กซี่ สไตล์สายฝ. เป็นไอเดียแมทช์เสื้อเปิดไหล่ ที่ใครๆ เห็นก็ต่างตกหลุมรักให้กับลุคนี้แน่นอนค่ะ

3. แมทช์เสื้อครอปเปิดไหล่กับกางเกงยีนส์เอวสูง

เป็นอีกไอเทมกันตายที่ถูกใจสาวๆ หลายคน ในยุคนี้ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้อย่างเสื้อครอปเปิดไหล่กับกางเกงยีนส์เอวสูง ที่ให้ลุคสาวสวยสุดเท่และเซ็กซี่หน่อยๆ แถมยังได้อวดหุ่นเพรียว ที่ทำให้ใครหลายๆคนต้องเหลียวหลังมองเลยค่ะ หรือจะเลือกใส่เป็นเสื้อเปิดไหล่ธรรมดาแล้วใส่ชายเสื้อเข้าไว้ข้างในกางเกงก็ดูดีไม่แพ้กันค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับแฟชั่น “เสื้อเปิดไหล่” ต้อนรับซัมเมอร์ สไตล์สายฝ. ที่เราเอามาฝากเป็นลุคที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปใคร ๆก็แต่งตามได้ ถือเป็นแฟชั่นกำลังมาแรง ในช่วงเวลาซัมเมอร์เหมาะกับอากาศประเทศไทยมากเลยค่ะ สาว ๆคนไหนที่นำไอเดียเหล่านี้ไปแต่งตาม บอกเลยว่ามันไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ!!

เราเชื่อว่า “ผู้ชายตัวเล็ก” หลายคน อาจกำลังประสบปัญหาขาดความมั่นใจในการแต่งตัวตัวเองไม่มากก็น้อย บางทีซื้อเสื้อผ้าไซซ์เล็กสุด ยังหลวมไม่พอดีตัว พอส่องกระจกก็ยิ่งขาดความมั่นใจจนไม่อยากออกจากบ้าน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ยาก เพราะวันนี้เราเอาสไตล์การแต่งตัวผู้ชายแบบ Minimal มาฝากคุณผู้ชายไซซ์มินิมอล โดนนิสัยของผู้ชายส่วนใหญ่ชอบการแต่งตัวที่เน้นไปที่แฟชั่นเรียบๆง่ายๆ ให้ลุคสมาร์ท เพราะฉะนั้นแค่เราลองปรับนิด ปรับหน่อย ก็สามารถอัพเลเวลจากการแต่งตัวบ้านๆ มาเป็นหนุ่มที่มีสไตล์ความมินิมอล และช่วยเสริมความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น

สไตล์การแต่งตัวแบบฉบับผู้ชายตัวเล็ก

แต่ต้องยอมรับเลยว่าในยุคนี้ การแต่งตัวในแบบฉบับผู้ชายไซซ์มินิมอล นั้นได้รับกระแสความนิยมอย่างมากมาโดยตลอด ตั้งแต่ผู้หญิงถึงผู้ชาย ด้วยกระแสต่าง ๆตาม Social ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับรู้ถึงความสวยงามและเรียบง่ายของแฟชั่นสไตล์ Minimal ถึงแม้ไม่ได้เรียนหรือทำงานสายออกแบบโดยตรง ก็สามารถแต่งกายสไตล์ Minimal ให้ออกมาดูดี มีเสน่ห์ แถมยังช่วยเสริมความมั่นใจให้ตัวเองอีกด้วย โดยสไตล์ที่เรานำมาฝากนี้ก็ดูจะเหมาะกับผู้ชายสูงไม่ถึง 170 อย่ารอช้าตามเรามาดูสไตล์การแต่งตัวสำหรับ “ผู้ชายตัวเล็ก”กันเลย

1. เสื้อผ้าโทนสีขาว-ดำ

การแบ่งสัดส่วนสีของเสื้อผ้าในการแต่งตัวแบบสไตล์ minimal สำหรับผู้ชายตัวเล็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้คุณดูดีมีสไตล์ และ เท่ มากขึ้นเลยค่ะ อย่างเช่นหากเสื้อผ้าบนร่างกายของคุณมีสัดส่วนสีขาว 100% แต่ถ้าคุณสวมแจ๊คเก๊ตสีดำทับเสื้อยืดสีขาวลงไป ก็จะกลายเป็น สีขาว 60% สีดำ 40% ซึ่งเรามีสัดส่วนสีและพื้นที่ที่แนะนำที่ดีกว่าคือ  สีขาว 50% สีดำ 50% ด้วยสัดส่วนของพื้นแบบเท่ากันระหว่างสีขาวและดำ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายผอมหรือผู้ชายอ้วน ทำให้การแต่งกายของคุณดูชัดเจนและ โดนเด่นมากขึ้นซึ่งสัดส่วนสีพวกนี้รวมไปถึงหมวก และ รองเท้าด้วยก็ได้

เสื้อผ้าโทนสีขาว 50% สีดำ 50%

2. เสื้อผ้าที่ออกแนวเรียบง่าย

ความเรียบง่ายที่เรานำมาฝากนี้ คือรูปทรง ลักษณะสี หรือลวดลายที่อยู่บนเสื้อผ้า เพียงแค่คุณมีเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดสีเรียบๆ กับกางเกงสีพื้น และรองเท้าคู่โปรด ก็ถือเป็นการเริ่มต้นการแต่งตัวแบบฉบับผู้ชายตัวเล็ก ได้อย่างง่ายดาย 

ลุคการแต่งตัวที่เรียบง่าย เราขอแนะนำลุคเสื้อสีขาวกับกางเกงสีพื้นทุกสี แต่สำหรับหนุ่มผิวเข้มหรือรูปร่างไม่พร้อมจะใส่ เพราะว่าเสื้อสีขาวมักทำให้เห็นสัดส่วนที่ชัดขึ้นทั้งหน้าอกหรือหน้าท้อง อาจจะเลือกใส่ เสื้อสีดำ น้ำเงิน ฟ้า หรือใส่เสื้อเชิ้ตก็ดูดีได้ไม่แพ้กันค่ะ

3. คุมโทนเสื้อผ้าให้เป็นสีเดียว

การใส่เสื้อผ้าแบบ Total Look ให้เป็นสีเดียวกันไปเลยทั้งตัว จะทำให้คุณได้ลุค Minimal ในแบบฉบับผู้ชายตัวเล็ก ได้ทันที แต่อย่าลืมข้อสำคัญนะคะว่าต้องเป็น เสื้อผ้าเรียบๆ ไม่มีลวดลายอะไรเยอะแยะ หรือเป็นสีพื้นเท่านั้น จะทำให้ลุคของคุณดูเรียบง่าย มีเสน่ห์และน่าค้นหามากขึ้นเลยค่ะ

เสื้อผ้าแบบ Total Look

4. เพิ่มสีสันตามสไตล์ของคุณ

เราเชื่อว่าผู้ชายตัวเล็ก หลายๆคนอาจจะไม่ชื่นชอบขาว เทา ดำ เสมอไป คุณสามารถเพิ่มสไตล์ความเป็นคุณด้วย สีเบจ สีครีม สีฟ้าอมเทา และสีน้ำเงิน ได้ตามความชอบและยังคงความเรียบง่าย หรือจะเพิ่มไอเทมสักชิ้นที่มีสีพวกนี้ อาจจะเป็นหมวก รองเท้าหรืออะไรซักอย่างก็ได้ จะช่วยเสริมให้ลุคการแต่งตัวดูรวยมากยิ่งขึ้น